‘ปัญหาใหญ่ในแดนกลาง’ ภารกิจสุดหินที่ ‘เยอร์เก้น คล็อปป์’ ต้องสะสาง

Liverpool, Jurgen Klopp, Jamie Carragher, Premier League, Liverpool Midfield, Thiago Alcantara, Georginio Wijnaldum, ลิเวอร์พูล, เยอร์เก้น คล็อปป์, เจมี่ คาร์ราเกอร์, พรีเมียร์ลีก, กองกลางลิเวอร์พูล, ติอาโก้ อัลคันทารา, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, Ufaclub88, Ufabet, ยูฟ่าคลับ88, ยูฟาเบท, ดูบอลออนไลน์, ดูบอลสด

เจมี คาร์ราเกอร์ สเก๊าเซอร์ตัวพ่อและอดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล ยุคคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก 2005 ที่ อิสตันบูล แสดงความเห็นเกี่ยวกับปัญหาสำคัญในทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ อย่างน่าสนใจเมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจบเกมที่บุกไปแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 3-1

คาร์รา เปิดเผยผ่านสื่อไว้ยาวเหยียด แต่ใจความสำคัญที่น่าขบคิดนั่นก็คือ หงส์แดง ต้องการกองกลางที่ทำหน้าที่คอยเก็บกวาดบอลอยู่หน้าแผงกองหลังมากกว่าตัวสร้างสรรค์เกมแบบ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่กำลังตกเป็นข่าวกันรายวัน

กูรูฝีปากกล้าของ สกายสปอร์ต ชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนตรงกลางสนามที่ยังแก้ไม่ตกของ ลิเวอร์พูล โดยเขาเชื่อมั่นว่า ต้นเหตุของปัญหามาจากแผนการเสริมทัพ ย้อนกลับไปเมื่อหลังจบซีซัน 2019-2020 ซึ่งเป็นปีที่พวกเขาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองได้สำเร็จและเป็นแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี

หลังจบฤดูกาลดังกล่าว ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ทำการเขย่าตลาดด้วยการคว้าตัว ติอาโก้ อัลคันทารา มาจาก บาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัวเพียง 25 ล้านปอนด์ในวัย 29 ปี ซึ่งหลาย คนมองว่าเป็นการซื้อตัวที่เข้าตากรรมการอย่างที่สุดและต่อยอดความสำเร็จกันไปแบบยาว ๆ ได้

Thiago Alcantara

แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็ไม่เคยซื้อนักเตะในตำแหน่งมิดฟิลด์เข้ามาร่วมทีมอีกเลย ตลอด 2 ปีครึ่ง จนกระทั่งปัญหามาระเบิดเอาซีซันนี้

คาร์ราเกอร์ ตั้งข้อสังเกตว่า การซื้อนักเตะใหม่ในช่วงหลังของ คล็อปป์ และทีมงานดูเหมือนจะเน้นผู้เล่นที่มีอายุน้อย ความสามารถเฉพาะตัวและเทคนิคดี, พวกเขาปิดดีลตัว ฮาร์วีย์ เอลเลียต เข้าทีมได้เมื่อปี 2019 และคว้ามิดฟิลด์ตัวรุกดาวรุ่งมาเข้าทีมรายล่าสุดคือ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ซึ่งทั้งคู่ก็ยังไม่ใช่คำตอบที่ทำให้ทีมกลับมาประสบความสำเร็จได้

อดีตกองหลัง หงส์แดง พุ่งเป้าไปที่การอยู่เบื้องหลังของ เป๊ป ลินเดอร์ส โดยเขาเชื่อว่า ผู้ช่วยชาวดัตช์เริ่มเข้ามามีอิทธิพลในการเลือกนักเตะมากเกินไปและส่งผลต่อผลงานของทีมในซีซันนี้

เอลเลียต และ คาวัลโญ ไม่น่าจะใช่นักเตะในแบบฉบับของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ซักเท่าไหร่ ทีมงานซื้อขายนักเตะของ ลิเวอร์พูล ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก แต่ตอนนี้กลับไม่มีการเสริมทีมในตำแหน่งมิดฟิลด์เลยในตลาดนักเตะสองปีหลังสุด

Jamie Carragher, Harvey Elliott, Fabio Carvalho, เจมี คาร์ราเกอร์, ฮาร์วีย์ เอลเลียต, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ, Ufaclub88, Ufabet, ยูฟ่าคลับ88, ยูฟาเบท, ดูบอลออนไลน์, ดูบอลสด

ลิเวอร์พูล ที่เราเห็นอยู่นี้ เป็นทีมที่พยายามเล่นในสไตล์ของ คล็อปป์ แต่กลายเป็นว่าพวกเขาไม่มีผู้เล่นในสไตล์นั้นเลยซักคน พวกเขากลายเป็นทีมธรรมดาที่พยายามเล่นเพรสซิ่งและดันแนวรับขึ้นสูง”

กูรู สกายสปอร์ต ชี้ว่า สิ่งที่เครื่องจักรสีแดงกำลังต้องการคือ การมีกองกลางที่ดุดัน เพรสซิ่งดี ตัดเกมเก่ง ครองบอลเหนียวแน่น และขับเคลื่อนเกมไปข้างหน้าได้ ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดนี้เขามองว่า มันคือนักเตะในสไตล์ของ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม นั่นเอง

ว่าแล้ว เจ้าตัวก็ให้แนะนำให้ คล็อปป์ กลับไปดึง “ซีดุม” มาช่วยแก้ปัญหาในแดนกลางและและกู้วิกฤติของทีมในขณะนี้เสียเลย

หลังจากที่บทสัมภาษณ์นี้หลุดออกมา แฟนบอลส่วนใหญ่เห็นด้วยกับความเห็นของ คาร์ราเกอร์ เพราะสิ่งที่ ลิเวอร์พูล แสดงออกในเกมที่แพ้ให้กับ เบรนท์ฟอร์ด นั้น มันชัดเจนเหลือเกินว่าพวกเขาขาดซึ่งความดุดันไม่เกรงใจใครในบริเวณกลางสนามและกว่า 90% นั่นคือผู้เล่นหน้าเดิม ๆ ทั้งสิ้น

ย้อนกลับไปดูไลน์อัพแดนกลางชุดแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก, แชมป์ พรีเมียร์ลีก และชุดไล่ล่า 4 แชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้วไม่น่าเชื่อว่าตัวหลักยังคงเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ รวมทั้งแข้งสำรองอย่าง นาบี เกอิต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน, เจมส์ มิลเนอร์ ที่สลับสับเปลี่ยนกันลงสนาม ในขณะที่อีกหนึ่งตำแหน่งเปลี่ยนแค่ ไวจ์นัลดุม มาเป็น ติอาโก้ เมื่อปี 2020 เท่านั้น

หากพิจารณาสิ่งที่ คาร์ราเกอร์ นำเสนอ เราอาจจะมองเห็นเพียงแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นในเวลานี้เท่านั้น ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วการดึง ซีดุม กลับมาก็อาจจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น แถมยังเหมือนการย้อนถอยหลังกลับไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วอีกต่างหาก

ประเด็นที่น่าสนใจกว่านั้นคือ การเปลี่ยนแปลงจาก ไวจ์นัลดุม มาเป็น ติอาโก้ ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ นั้น มีนัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อทีม

จะเห็นได้ว่า 2 ฤดูกาลที่เป็นแชมป์ยุโรปและแชมป์ลีกนั้น ลิเวอร์พูล ได้รับการยอมรับว่า เป็นทีมที่เพรสซิ่งสุดมัน พร้อมบดบี้คู่ต่อสู้ตั้งแต่แดนบน และวิ่งกันตลอด 90 นาที, ในขณะที่ซีซันที่แล้ว พวกเขาเหมือนจะเปลี่ยนสไตล์ไปเล็กน้อย การเพรสซิ่งไม่ได้เข้มข้นเหมือนเดิม แต่มีจังหวะและเป็นระบบมากขึ้น โดยมีการจ่ายบอลของ ติอาโก้ เข้ามาสร้างความแตกต่างให้กับเกมแทนลูกขยันของแข้งชาวดัตช์

Thiago Alcantara, Georginio Wijnaldum, ติอาโก้ อัลคันทารา, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, Ufaclub88, Ufabet, ยูฟ่าคลับ88, ยูฟาเบท, ดูบอลออนไลน์, ดูบอลสด

นั่นเป็นเพราะว่า คล็อปป์ พยายามเติม “เทคนิค” เข้าไปในแดนกลางมากกว่าเดิม เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา เขาโดนวิจารณ์ว่าชอบใช้มิดฟิลด์ประเภทผึ้งงาน วิ่งไม่มีหมด หาตัวสร้างสรรค์เกมยาก ส่วนใหญ่พึ่งพาการเล่นแบบไดเร็กไปที่ปีกทั้ง 2 ข้าง ในบางเกมที่โดนจับทางได้ก็ไปไม่เป็น เพราะไม่มีตัวแถวสองที่สามารถช่วยทำประตูได้ หรือผ่านบอลแบบ Killer Pass ที่ชี้เป็นชี้ตายได้

ซึ่งการมี ติอาโก้ ในแดนกลางทำให้เกมของ ลิเวอร์พูล มีระบบที่แตกต่างไปจากเดิมและมีมิติในเกมรุกมากขึ้น ดูได้จากผลงานเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่พีคสุดจนลุ้นถึง 4 แชมป์ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาก้าวข้ามการเล่นในแบบเดิม ๆ ไปแล้ว และกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่แนวทางที่มีมิติมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่คือการที่นายใหญ่ชาวเยอรมัน(หรือเจ้าของสโมสร)ก็ไม่ได้ต่อยอดเสริมความแข็งแกร่งให้กับแดนกลางอย่างต่อเนื่อง โดยแม้ว่าช่วงซัมเมอร์จะเล็ง ออเรเลียง ชูอาเมนี เอาไว้ แต่ก็ทำได้เพียงการยืมตัว อาร์ตูร์ เมโล เข้าสู่ทีมในวันสุดท้ายของตลาด ซึ่งอยู่นอกเหนือแผนที่วางไว้แต่ทีแรก

ปัจจัยเหล่านี้จึงส่งผลทำให้การพยายามเปลี่ยนแปลงแนวทางการเล่นในฤดูกาลนี้ไม่สัมฤทธิ์ผล และเมื่อรวมกับปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บ ความฟิต และอายุของผู้เล่นที่มากขึ้น รวมทั้งช่วงอายุของพวกดาวรุ่งกับตัวเก๋าที่ห่างกันจนไม่สามารถทดแทนกันได้ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในสนามลดลงไปด้วย

จริงอยู่ที่ข้อเสนอของ คาร์ราเกอร์ อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องความดุดันในแผงกองกลางได้ แต่ในอีกมุมคือ พวกเขาก็ต้องการผู้เล่นที่สามารถสร้างเกมรุกที่หลากหลายได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเติมแผงมิดฟิลด์เพียงคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอต่อการยกระดับทีมในช่วงที่เหลือของฤดูกาล

ภารกิจในตลาดเดือนมกราคมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ จึงน่าจะหนักขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top