โอกาสสุดท้ายของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน

ลิเวอร์พูล, Liverpool, หงส์แดง

สถานการณ์ของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน กองกลางจอมบึกกับ ลิเวอร์พูล ในซีซันนี้ดูเหมือนว่าจะใกล้ถึงจุดแตกหัก หลังจากที่เจ้าตัวยังไม่มีบทบาทที่ชัดเจนนักในทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์

แม้ว่าจะได้รับโอกาสในการประเดินนัดแรกของ พรีเมียร์ลีก ในเกมที่บุกไปเอาชนะ นอริช ซิตี้ ได้ 3-0 แต่เกมนั้นเขาก็โดนวิจารณ์ค่อนข้างเยอะว่าเล่นบอลไม่มีประโยชน์และหายไปจากเกมจนต้องโดนเปลี่ยนตัวในครึ่งหลัง

จากนั้นเมื่อบรรดามิดฟิลด์ตัวหลักอย่าง ฟาบินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เคอร์ติส โจนส์ ทยอยกันกลับมาสู่ทีม การลงสนามของ “ดิอ็อกซ์” ก็ถูกจำกัดลงเรื่อย ๆ

ไม่น่าเชื่อว่าหลังเกมนัดแรกของฤดูกาลกองกลางวัย 28 ปีได้ลงสนามในเกมลีกต่อจากนั้นรวมกันเพียง 8 นาทีเท่านั้น!

ส่วนในถ้วยอื่น การได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกมที่เจอกับ นอริช ซิตี้ อีกครั้งในศึก คาราบาวคัพ และการได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 2 นัดไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรมากไปกว่าความต้องการเก็บผู้เล่นตัวหลักเอาไว้บู๊ใน พรีเมียร์ลีก ของ เยอร์เก้น คล็อปป์

เมื่อดูจากสถานการณ์แบบนี้ดูเหมือนว่าอนาคตของ อ็อกซ์เหลด จะไม่ค่อยสดใสเท่าใดนัก

ว่าแล้วก็มีข่าวแพลมออกมาจากต้นสังกัดเก่าอย่าง อาร์เซนอล ซึ่งมีการระบุว่า มิเกล อาร์เตต้า ยินดีที่จะรับอดีตเพื่อนร่วมทีมรายนี้กลับสู่อ้อมอกที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกครั้งในรูปแบบของการยืมตัวในช่วงตลาดซื้อขายหน้าหนาว ซึ่งเรื่องนี้หลายคนมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เจ้าตัวจะได้มีเกมลงสนามมากขึ้น

เผลอ ๆ อาจจะเจอหนทางที่ดีกว่าในการนั่งเป็นตัวสำรองที่ ลิเวอร์พูล ก็ได้!

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าโอกาสในการโชว์ฝีเท้าของเขาในฐานะผู้เล่นตัวจริงของ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะไม่มีเอาเสียเลย

อย่าลืมว่าเดือนมกราคมที่กำลังจะมาถึงนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน 2 กองหน้าตัวริมเส้นจะต้องจรลีไปเล่นให้กับทีมชาติในศึก แอฟฟริกันคัพออฟเนชันส์ ซึ่งจะทำใหกุนซือชาวเยอรมันขาดผู้เล่นตัวหลักในเกมรุกไปถึง 2 รายพร้อม ๆ กัน

และนั่นคือโอกาสที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน จะได้ปรากฎตัวอีกครั้งต่อหน้า เดอะค็อป ทั้งหลายในฐานะผู้เล่น 11 ตัวจริง

จริงอยู่ที่ว่า คล็อปป์ มักชอบใช้งานเขาในตำแหน่งกองกลางฝั่งขวาในระบบ 4-3-3 แต่ก็ต้องไม่ลืมด้วยว่า อ็อกซ์เหลด นั้นแจ้งเกิดกับ เซาแธมป์ตัน และ อาร์เซนอล ด้วยการเล่นในตำแหน่งริมเส้นมาก่อน ซึ่งคุณสมบัตินี้จะช่วยให้ผู้จัดการทีม หงส์แดง มีออปชั่นในเกมรุกเมื่อยามที่ไร้ 2 ดาวเด่นอย่าง ซาลาห์ และ มาเน ได้

คล็อปป์ จะสามารถใช้งาน “ดิอ็อกซ์” ได้ทั้งตัวริมเส้นและกองกลางอย่างที่เขาเคยเล่น ซึ่งถือเป็นประโยชน์กับทีมอย่างมากในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้

ด้วยฝีเท้าและประสบการณ์เชื่อว่า แชมเบอร์เลน นั้นดีเกินกว่าที่จะนั่งเป็นตัวสำรอง เพียงแต่เรื่องของอาการบาดเจ็บเท่านั้นที่เป็นตัวขัดขวางพัฒนาของเขากับ ลิเวอร์พูล ในช่วงที่ผ่านมา

เชื่อว่า คล็อปป์ ยังคงเชื่อใจในลูกทีมรายนี้และเมื่อถึงเดือนมกราคมที่ ซาลาห์ และ มาเน ที่ต้องมีหน้าที่ไปลุยศึก แอฟริกัน เนชั่น คัพ, ตอนนั้น โอกาสของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน ก็จะมาถึง

อยู่ที่ว่าเจ้าตัวแล้วว่า จะคว้ามันเอาไว้ได้หรือไม่ !!

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top