หลังจากที่มีกระแสข่าวเรื่องการย้ายทีมของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน ออกมาอย่างต่อเนื่อง โฆเซ เอ็นริเก้ อดีตกองหลัง หงส์แดง ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้สโมสรรับดำเนินการต่อสัญญากับกองหน้ารายนี้โดยเร็ว
ปีนี้นับเป็นปีที่ 7 ของ “บ็อบบี้” กับการรับใช้สโมสร นับตั้งแต่ที่ย้ายมาจาก ฮอฟเฟนไฮม์ เมื่อซัมเมอร์ 2015 พร้อมกับการประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ได้ทุกรายการไล่มาตั้งแต่ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก, ซูเปอร์คัพ, สโมสรโลก, พรีเมียร์ลีก, คารบาวคัพ, เอฟเอคัพ และล่าสุด คอมมูนิตี้ ชิลด์
ฟีร์มีโน มีความสำคัญกับ ลิเวอร์พูล ในฐานะกองหน้าตัวหลอกหรือ “ฟอลส์ไนน์” ซึ่งเป็นตำแหน่งแจ้งเกิดในยุคของ เยอร์เก้น คล็อปป์ และยังเป็นตำแหน่งที่ทำให้ ซาดิโอ มาเน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำอีกด้วย
อย่างไรก็ดี, กาลเวลามักมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงเสมอ บทบาทของ บ็อบบี้ เริ่มลดน้อยถอยลงตั้งแต่เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องและการย้ายมาของ ดิโอโก้ โชต้า จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นปฐมบทแห่งการเปลี่ยนแปลงแนวรุกของ ลิเวอร์พูล ก็ว่าได้
การมาของ โชต้า กลายเป็นการค้นพบกองหน้าจอมทำประตูคนใหม่ เมื่อแข้งโปรตุกีสสามารถยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ทำให้คนลืมไปเลยว่าพวกเขามี ฟีร์มีโน อยู่ในทีม
แม้ก่อนหน้านี้จะมี ทาคุมิ มินามิโนะ ย้ายมารอแล้ว แต่สถานะของแข้งซามูไร คืออะไหล่เอาไว้หมุนเวียนใช้งานยามฉุกเฉิน หรือในเกมที่ต้องการพักนักเตะตัวหลักด้วยอายุอานามของ 3 ประสานก็เริ่มเยอะขึ้นใกล้แตะเลข 3 แล้วในเวลานั้น
สถานภาพของแข้งบราซิลเลียนยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอนที่ หลุยส์ ดิอาซ ถูกดึงเข้ามาในตลาดหน้าหนาว ในขณะที่ โชต้า ได้รับบาดเจ็บ คล็อปป์ จึงต้องเปลี่ยนแท็คติกใช้ มาเน เล่นเป็นฟอลส์ไนน์ ขนาบข้างด้วยแข้งโคลอมเบียนและ ซาลาห์ ด้านขวา กลายเป็นแผงกองหน้าที่สุดอันตรายพาทีมลุ้น 4 แชมป์จนนัดสุดท้ายของฤดูกาล
ด้วยเหตุนี้ทำให้หลังจบซีซันแฟนบอลต่างเชื่อว่าอาจจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของ ฟีร์มีโน แล้วก็ได้ พร้อมกับสัญญาที่เหลืออีกเพียงปีเดียวซึ่งบีบให้ ลิเวอร์พูล ต้องขายทิ้งในช่วงซัมเมอร์หากไม่ต้องการเสียนักเตะไปแบบฟรี ๆ แถมความคิดนี้ยิ่งถูกทำให้เชื่อว่าจะเป็นความจริงเมื่อ ดาร์วิน นูนเญซ ย้ายเข้ามาอีกคน ที่ว่างในตำแหน่งสไตรเกอร์ก็แทบจะไม่เหลืออีกต่อไป
ความสนใจจาก ยูเวนตุส จึงกลายเป็นการเร่งปฏิกิริยาข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของ ฟีร์มีโน ทีมม้าลายเสนอเงิน 19 ล้านปอนด์ ให้ ลิเวอร์พูล แม้จะยังไม่เพียงพอ แต่ก็ดูเหมือนว่าการเจรจาจะยังคงดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังมีข่าวนี้ออกมาเจ้าตัวก็ได้ออกมายิ้มฟันขาวพร้อมยืนยันสยบข่าวว่า “ผมรักสโมสรแห่งนี้ และต้องการอยู่ที่นี่” ตามด้วยบทสัมภาษณ์ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่บอกว่าดาวเตะบราซิลเลียนเปรียบเสมือน “ชีวิตและจิตวิญญาณของทีม” นั่นหมายความว่า หงส์แดง ยังต้องการเก็บนักเตะรายนี้เอาไว้ต่อไป
เช่นเดียวกับ โฆเซ เอนริเก้ ที่ออกมาสนับสนุนให้ ลิเวอร์พูล รั้ง ฟีร์มีโน ให้ได้แม้ว่าตอนนี้เขาอาจจะไม่ใช่ผู้เล่นตัวหลักแล้วก็ตาม แต่ด้วยประสบการณ์และฝีเท้าเจ้าตัวยังมี “ของ” ที่จะช่วยทีมได้เมื่อยามจำเป็น
“ผมหวังว่าเราจะต่อสัญญาใหม่กับเขา เพราะเขายังคงมีอะไรอีกมากมายที่สามารถให้กับทีมได้และตัวนักเตะเองก็พร้อมที่จะอยู่และรักสโมสรแห่งนี้ ซึ่งนี่คือนักเตะที่ดีที่สุดที่คุณควรมีอยู่ในทีม”
เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ฟีร์มีโน ยิงไปทั้งหมด 11 ประตูจากทุกรายการ โดยมีเกมที่โดดเด่นคือทำแฮททริคใส่ วัตฟอร์ด และยิง 5 ประตูจากการลงเล่น 7 นัดใน แชมเปี้ยนส์ลีก
มองดูเผิน ๆ เราอาจคิดว่าแข้งวัย 31 ปีอยู่ในช่วงฟอร์มตกต่ำ แต่ถ้าดูในรายละเอียดจริง ๆ ก็ต้องบอกว่าจำนวนประตูระดับเลข 2 หลักกับการที่ไม่ค่อยได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอเนื่องด้วยอาการบาดเจ็บ แบบนี้ก็ถือเป็นตัวเลขที่ไม่เลวเลยทีเดียว
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือต้องไม่ลืมว่า ฟีร์มีโน ไม่ใช่กองหน้าประเภทยิงประตูแบบถล่มทลาย แต่เขามีประโยชน์ในแท็คติกของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ทั้งการประสานงานในเกมรุก การเพรสซิง และการเล่นเกมรับ ซึ่งหากมีโอกาสบิ๊กบอสชาวเยอรมันก็พร้อมที่จะส่งเขาลงสนามทันที
และด้วยสถานการณ์ที่ ดิโอโก้ โชต้า กำลังได้รับบาดเจ็บต้องพักนานหลายสัปดาห์ การมีกองหน้าประสบการณ์สูงอย่าง บ็อบบี้ ถือเป็นออปชันที่เหมาะสม ทั้งการสแตนด์บายเป็นตัวสำรองและการคอยเป็นพี่เลี้ยงให้กับ ดาร์วิน นูนเญซ ในช่วงปรับตัว ซึ่งหากตัดสินใจปล่อยตัวออกไปอาจส่งผลเสียกับทีมมากกว่าที่คิดก็ได้
แม้ใครจะว่าอย่างไร แต่ถ้าลอง เยอร์เก้น คล็อปป์ เป็นคนออกมายืนยันว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน ยังเป็นนักเตะที่มีความสำคัญต่อทีม ก็ยากที่จะเห็นเขาย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ ในซัมเมอร์นี้