ผลการแข่งขัน : ลิเวอร์พูล 0-1 พาเลซ พรีเมียร์ลีก 2023/24
ลิเวอร์พูล เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ แต่กลับกลายเป็นว่าทีมเยือนบุกมาเก็บ 3 แต้มในถิ่นแอนฟิลด์ไปซะอย่างนั้น นั่นทำให้ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้คาถิ่นตัวเองเป็นนัดที่ ติดต่อกันในช่วง 1 สัปดาห์ ด้วยผลการแข่งขัน ลิเวอร์พูล 0-1 พาเลซ
หงส์แดง เพิ่งจะพ่ายแพ้ให้กับ อตาลันต้า ในถิ่นแอนฟิลด์ในศึก ยูโรป้า ลีก ไปเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังตั้งสติกลับมาไม่ได้ ในขณะที่ คริสตัล พาเลซ เตรียมตัวมาดี เล่นได้อย่างรัดกุม และสร้างสรรค์ความได้เปรียบเหนือกว่า ลิเวอร์พูล อยู่หลายหน ทั้งที่ฝั่ง ลิเวอร์พูล ครองบอลได้มากกว่า มีโอกาสเข้าทำมากกว่า แต่ก็จบด้วยปัญหาเดิม ๆ
ลิเวอร์พูล ได้ อลิสซอน เบ็คเกอร์ กลับมายืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงในเกมนี้ โดย เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดผู้เล่นแนวรุกเป็น หลุยส์ ดิอาซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และให้โอกาส ดาร์วิน นูนเญซ ได้แก้ตัวจากเกมที่พ่าย อตาลันต้า คารังในศึกยูโรป้า ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
แผงมิดฟิลด์ใช้ วาตารุ เอนโด ปักหลักเป็นมิดฟิลด์หลายเลข 6 ดังเดิม ประสานงานกับ เล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ในฝั่งขวา และได้ เคอร์ติส โจนส์ เป็นมิดฟิลด์ฝั่งซ้ายตัวจริง
แนวรับ คอเนอร์ แบรดลีย์ ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริง หลังจากได้พักในเกมยูโรป้าทั้งเกม ประสานงานกับคู่เซ็นเตอร์แบ็ค เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ อิบราฮิมา โคนาเต้, ในขณะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก็ได้ลงทำหน้าที่ในตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริงในเกมนี้
แต่ดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูล จะยังตั้งสติไม่ได้ เพราะถูก คริสตัล พาเลซ แผลงฤทธิ์ยิงขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 14 ฝั่งทีมเยือนต่อบอลจากเท้าสู่เท้า และเป็น เอเบริชี่ เอเซ่ ที่เข้าไปแท็ปอินผ่านเซฟของ อลิสซอน แบบไร้ความกดดัน [ ลิเวอร์พูล 0-1 คริสตัล พาเลซ ]
ลิเวอร์พูล เกือบจะโดนทิ้งห่างเเป็น 0-2 ในจังหวะที่ ฟาน ไดจ์ค ลื่นล้ม จนทำให้ ฟิลลิป มาเตต้า หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ อลิสซอน และชิพบอลผ่านเซฟไปได้ แต่โชคดีที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน สามารถสปีดมาเคลียร์บอลหน้าประตูได้ทันการณ์ ก่อนที่ลูกบอลจะผ่านโกล์ไลน์ไปเต็มใบ
คริสตัล พาเลซ ปล่อยให้ ลิเวอร์พูล ครองบอลมากกว่า แต่ทีมเยือนกลับสามารถตัดเกม ลิเวอร์พูล ได้เกือบตลอด จังหวะสวนกลับก็น่ากลัว แต่ทั้งคู่ไม่สามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้ จบครึ่งแรกไปก่อน โดยที่ทีมเยือนเป็นฝ่ายนำอยู่ 1 ประตู
ก่อนเริ่มครึ่งหลัง, คล็อปป์ ตัดสินใจเปลี่ยนเอา วาตารุ เอนโด ออกจากสนาม และส่ง โดมินิก โซบอสซ์ไล ลงแทน โดยขยับให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ลงไปเล่นเป็นหมายเลข 6 แทน แต่เกมครึ่งหลังเริ่มได้ไม่นานนัก คอเนอร์ แบรดลีย์ ก็เจ็บไปอีกคน จน คล็อปป์ ต้องส่ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลงสนาม
ลิเวอร์พูล ยังไม่สามารถทำอะไรทีมเยือนได้เลย จนนาทีที่ 66 คล็อปป์ ตัดสินใจส่ง ดิโอโก้ โชต้า และ โคดี้ กัคโป ลงสนามแทน ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยส์ ดิอาซ
เกมดำเนินไปเรื่อย ๆ จน เคอร์ติส โจนส์ มีโอกาสได้หลุดเดี่ยวไป แต่เจ้าตัวก็ดันยิงออกนอกกรอบไปแบบไม่น่าเชื่อ จนนาทีที่ 83 คล็อปป์ ส่ง ฮาร์วีย์ เอลเลียต ลงไปแทน เคอร์ติส โจนส์
แต่อะไรหลาย ๆ อย่างกลับไม่เป็นใจกับทีมเจ้าบ้าน แม้จะได้โอกาสยิงจ่อ ๆ หรือได้จังหวะเข้าทำมากขนาดไหน ก็ไม่สามารถตีไข่แตกได้ จบเกมไปด้วย ลิเวอร์พูล พ่ายคารัง 2 นัดติดต่อกัน
รายชื่อนักเตะผู้ทำประตูในเกมนี้ :
เอเบริชี่ เอเซ่ นาทีที่ 14 [ 0-1 ]