ลิเวอร์พูล – สปาร์ต้า ปราก เกมนัดที่ 2 ในศึกยูโรป้า ลีก 2023-24 ซึ่งในนัดแรก ฝั่ง ลิเวอร์พูล บุกไปถล่ม สปาร์ต้า ปราก มาก่อนแล้ว 5-1 ด้วยผลต่างประตูที่มี ทำให้ทีมเจ้าบ้าน มีความได้เปรียบมาก ๆ อยู่แล้ว
เกมนี้ ฝั่ง ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ทำให้เล่นแบบไม่ต้องออกแรงเหนื่อยนัก โดยถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟนบอล หงส์แดง ได้เชียร์กันอย่างสบายใจ ก่อนที่ทีมรักจะบุกไปทำศึกใหญ่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรายการเอฟเอ คัพ คืนวันอาทิตย์นี้ และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าพูดถึงในเกมที่ ลิเวอร์พูล เล่นกันเหมือนซ้อมเกมรุก
1. หงส์แดง เริ่มต้นเกม ลิเวอรพูล – สปาร์ต้า ปราก ได้เฉียบขาด
![ลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/03/ลิเวอร์พูล-1024x538.webp)
ลิเวอร์พูล ใช้เวลาเพียง 14 นาทีแรกของเกมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยการยิงประตูผู้มาเยือนได้ถึง 4 ลูก โดยก่อนหน้านี้พลพรรค “หงส์แดง” มักไม่ใช่ทีมที่ออกสตาร์ทด้วยความดุดันมากนัก และต้องอาศัยครึ่งเวลาหลัง ในการพลิกสถานการณ์เอาชนะคู่แข่งค่อนข้างบ่อยครั้ง ในฤดูกาลปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม, 4 ประตูจาก 4 แข้งอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, บ๊อบบี้ คลาร์ก และ โคดี้ กัคโป ทำให้ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เล่นด้วยความสบายใจแบบสุด ๆ ก่อนจะบวกเพิ่มอีก 2 ประตูในครั้งหลังจาก โดมินิค โซบอสซ์ไล และ กัคโป
นี่เป็นอีกเกมที่ ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาดในเกมรุก และใช้โอกาสที่มีอย่างคุ้มค่า, นอกจากนี้ พวกเขายังไม่มีผู้เล่นตัวหลัก ที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มในเกมนี้อีกด้วย
2. ผลงานของ บ๊อบบี้ คลาร์ก ในเกม ลิเวอร์พูล – สปาร์ต้า ปราก
![บ็อบบี้ คลาร์ก บ็อบบี้ คลาร์ก](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/03/บ็อบบี้-คลาร์ก-1024x538.webp)
ลิเวอร์พูล ได้ให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งมากมายหลายคนแล้ว ในฤดูกาลนี้ ซึ่งบางเกม มันเป็นสถานการณ์ที่บังคับ และในบางเกม ก็อาจจะเจอคู่แข่งที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่แน่นอนว่า “หงส์แดง” มีขุมกำลังอายุน้อย ที่มีศักยภาพพร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นอนาคตของทีม
คลาร์ก แสดงให้เห็นแล้วว่า มีความสามารถอย่างครบถ้วน ที่จะเป็นตัวเลือกให้กับทีมชุดแรกในเวลานี้ โดยการทำไป 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ของเจ้าตัวนั้น ก็บ่งบอกถึงความมั่นใจ การข้าใจเกม และได้รับความไว้วางใจจากรุ่นพี่เป็นอย่างดี
มิดฟิลด์วัย 19 ปี ทำงานหนักตลอดทั้งเกม ทั้งในการเล่นเกมรุก และเกมรับ รวมถึงพยายามจะเคลื่อนที่ เพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมกับเกมตลอด น่าเสียดายที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเปลี่ยนตัวเขาออก เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ที่จะทำให้เจ้าหนูรายนี้บาดเจ็บ
3. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พร้อมกลับมาเป็นตัวจริง
![ซาลาห์ ซาลาห์](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/03/ซาลาห์-1024x538.webp)
เราทุกคนอาจแปลกใจที่ ปีกซุเปอร์สตาร์ทีมชาติอิยิปต์ ได้ลงเล่นเต็ม 90 นาที ในเกมนี้ หลังจากที่เขาต้องพักฟื้นตัวอยู่หลายสัปดาห์ เพราะอาการบาดเจ็บ แต่ก็เห็นได้ชัดว่า คล็อปป์ ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่ให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้สัมผัสเกมแบบเต็มเวลา เพื่อเรียกความฟิตกลับมา
ดาวเตะวัย 31 ปี ระเบิดฟอร์มสุดยอดอีกครั้ง ด้วยการซัดไป 1 ประตู กับทำอีก 3 แอสซิสต์ โดยเจ้าของเสื้อเบอร์ 11 มีความตื่นตัว เฉียบคม สัมผัสบอลแรกได้ดี และมองหาช่องว่างอยู่ตลอด เพื่อเปิดโอกาสให้กับตัวเอง และเพื่อนร่วมทีมด้วย
หลังจากพลาดเกมการแข่งขันไปหลายเกม ระหว่างที่เจ้าตัสไปช่วยทีมชาติอิยิปต์ลงเล่นในรายการ แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา, ตอนนี้ ทุกคนที่ ลิเวอร์พูล ก็หวังว่า ซาลาห์ จะกลับมาฟิตสมบูรณ์ได้ทันการณ์ ในช่วงท้ายของซีซัน
4. เส้นทางใน ยูโรปา ลีก ต้องเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง
![ยูโรป้า ลีก ยูโรป้า ลีก](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/03/ยูโรป้า-ลีก-1024x538.webp)
ผู้ท้าชิงสำคัญของ ลิเวอร์พูล ในรายการยูโรป้า ลีก อย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งนำโดย ชาบี อลอนโซ่ ตัวเต็งกุนซือคนใหม่ “หงส์แดง” ในปีหน้านั้น เกือบจะตกรอบไปแล้ว หลังจากโดน คาราบัค ยิงนำไปก่อน 2 ประตู แต่สุดท้าย พวกเขาสร้างปาฏิหาริย์ซัดคืน 3 ประตูรวดในครึ่งหลัง พลิกเข้ารอบ 8 ทีมได้สำเร็จ
ขณะที่ สปอร์ติง ลิสบอน ของ รูเบน อโมริม อีกหนึ่งในลิสต์นายใหญ่คนใหม่ ลิเวอร์พูล ก็โดน อตาลันตา เขี่ยตกรอบไป ซึ่งหมายความว่า 3 ใน 8 ทีมสุดท้ายมาจาก กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ประกอบด้วย อตาลันตา, เอซี มิลาน และ โรมา
ส่วนอีกทีม 3 ทีมที่เหลือคือ โอลิมปิก มาร์กเซย, เบนฟิก้า, เวสต์แฮม ซึ่งถือได้ว่า แข็งแกร่งแทบทุกทีม แต่แน่นอนว่า ไม่มีใครอยากเผชิญหน้ากับ ลิเวอร์พูล เช่นกัน
5. ลิเวอร์พูล กับศึก “แดงเดือด” และโอกาสในการลุ้น 4 แชมป์
![แดงเดือด แดงเดือด](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/03/แดงเดือด-1024x538.webp)
ณ จุดนี้ มันไม่ได้สำคัญมากนักว่า แต่ละคนจะคิดว่า ลิเวอร์พูล จะสามารถคว้าถ้วยรางวัลทั้ง 4 รายการได้หรือไม่ แต่ทีมของ คล็อปป์ ก็แสดงให้เห็นว่า พวกเขามีดีพอ ที่จะลุ้นแชมป์ในทุกรายการที่ลงสนาม และมีขุมกำลังแข็งแกร่งเพียงพอ ในการยืนระยะไปจนถึงท้ายฤดูกาล
ลิเวอร์พูล จะต้องเจอศึกหนักในการยกพลไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย สุดสัปดาห์นี้ และสำหรับเกม “แดงเดือด” นั้น ผลการแข่งขันสามารถออกได้ทั้ง 3 หน้า
เมื่อมองในภาพรวม ลิเวอร์พูล อยู่ในช่วงเวลาที่ดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด พอสมควร แต่การไปเยือน “ปีศาจแดง” ที่บ้าน ซึ่งเหลือแชมป์ให้ลุ้นเพียงรายการเดียวนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน