นิวคาสเซิล vs ลิเวอร์พูล กับ 5 ประเด็นหลังเกมโกงความตายสุดมันส์

นิวคาสเซิล vs ลิเวอร์พูล ถือเป็นเกมพรีเมียร์ลีกบิ๊กแมตช์ในสัปดาห์ที่ 3 และ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็สร้างปาฏิหาริย์ ด้วยการบุกไปเอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ถึงสนาม เซนต์ เจมส์ ปาร์ค 2-1 ทั้งที่ พลพรรค “หงส์แดง” เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ตั้งแต่นาทีที่ 28 หลังจาก เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ โดนไล่ออก

ในช่วงต้นเกมลูกทีมของ คล็อปป์ ระส่ำอย่างหนัก หลังจากโดนเจ้าถิ่นยิงประตูขึ้นนำไปก่อน จากลูกยิงของ แอนโธนี กอร์ดอน แถมยังตัวผู้เล่นมากกว่าด้วย แต่นักเตะ ลิเวอร์พูล ก็ช่วยกันยัน นิวคาสเซิล เอาไว้นานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่ ดาร์วิน นูนเญซ จะรับบทซูเปอร์ซัพลงมาซัด 2 ประตูสุดคม พาทีมเก็บ 3 คะแนนล้ำค่ากลับบ้าน

รายละเอียดภายในเกมระหว่าง นิวคาสเซิล vs ลิเวอร์พูล มีเรื่องให้พูดถึงอีกมากมาย และนี่คือ 5 ประเด็นสำคัญในนัดที่สาวก เดอะ ค็อป ต้องจดจำไปอีกนาน

1. ทัพหงส์แดงได้รับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ในเกม นิวคาสเซิล vs ลิเวอร์พูล

นิวคาสเซิล - ลิเวอร์พูล

แม้ว่ามันจะเป็น 3 แต้มในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ แต่ก็ถือได้ว่า เป็นชัยชนะที่ล้ำค่าสุด ๆ สำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะคู่แข่งที่พวกเขาเผชิญหน้าด้วยคือ นิวคาสเซิล ที่โค้ชฝีมือดีอย่าง เอ็ดดี้ ฮาว ที่สามารถพาทีม สาลิกาดง จบอันดับ 4 ในซีซั่นที่แล้ว และยังเสริมทัพได้อย่างยอดเยี่ยมในซัมเมอร์นี้

ปีนี้ ลิเวอร์พูล อยู่ในช่วงสร้างทีมใหม่อย่างแท้จริง หลังจากบรรดานักเตะคีย์แมนอย่าง เจมส์ มิลเนอร์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ย้ายออกไปทั้งหมด และ คล็อปป์ ก็ต้องใช้เวลาในการปรับจูนระบบการเล่น เพื่อรองรับนักเตะใหม่

อย่างไรก็ตาม การเก็บได้ทั้งหมด 7 แต้ม จาก 3 เกมแรก และ 2 ใน 3 เกมที่ต้องออกไปเยือน ทีมลุ้นท็อปโฟร์ด้วยกันอย่าง เชลซี และ นิวคาสเซิล นั้น ถือเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก และเป็นการสร้างกำลังให้กับนักเตะ รวมไปถึงแฟนบอลพอสมควรเลยทีเดียว

2. วันที่ยอดเยี่ยมของ ดาร์วิน นูนเญซ

ดาร์วิน นูนเญซ

ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัย เริ่มส่งสัญญาณถึงความยอดเยี่ยมของตัวเองออกมา ตั้งแต่ในช่วงปรีซีซันแล้ว หลังจากระเบิดสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง และหลังจบเกมกับ นิวคาสเซิล นั้น ดาร์วิน นูนเญซ แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก

นูนเญซ ย้ายมาจาก เบนฟิก้า เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมานั้น เจ้าตัวสัมผัสบอลไป 9 ครั้ง ยิงเข้ากรอบ 2 ครั้ง และเป็น 2 ประตู โดยตัวเลขเหล่านี้มันเหมือนกับสิ่งที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยอดดาวยิงชาวนอร์เวย์ ทำให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปเมื่อปีที่แล้ว

นับตั้งแต่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 77 หัวหอกวัย 24 ปี เขาสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับของ นิวคาสเซิล เป็นอย่างมาก นูนเญซ ใช้ความเร็ววิ่งทะลุแนวรับเจ้าบ้านอยู่หลายครั้ง และช่วยไล่บอลในแดนหน้า ก่อนจะจบสกอร์ 2 ลูกได้อย่างเฉียบขาด พาทีมพลิกนรกแบบเหลือเชื่อ

3. การเริ่มต้นที่ยากลำบากของ วาตารุ เอ็นโด

วาตารุ เอ็นโด

หากได้ฟังการแถลงข่าวของ คล็อปป์ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่า เทรนเนอร์ชาวเยอรมันมั่นใจอย่างเต็มที่ กับความสามารถของ เอ็นโด ที่จะเข้ามายืนปักหลักเป็นกองกลางหมายเลข 6 ให้กับแผงมิดฟิดล์ ลิเวอร์พูล ยุคใหม่

เอ็นโด ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกมแรกให้ ลิเวอร์พูล ด้วยการเจอบททดสอบที่หนักหนาสาหัสพอสมควร ในการมาเยือน นิวคาสเซิล โดย ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่น มีสถิติเข้าปะทะ 2 ครั้ง สกัดบอล 1 ครั้ง และไม่สามารถแย่งบอลจากคู่แข่งได้เลย ก่อนจะโดนเปลี่ยนออกในนาทีที่ 60

แน่นอนว่า มันไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง ที่จะตัดสิน เอ็นโด ที่เพิ่งย้ายมาเพียง 1 สัปดาห์ จากเกมเพียงแค่นัดเดียว และทีมต้องเล่นเพียง 10 คน แต่เขา อาจจะต้องปรับตัวให้เร็วกว่านี้ หาก ลิเวอร์พูล ยังไม่สามารถหากองกลางตัวรับเข้ามาเพิ่มได้

4. ความผิดพลาดในแนวรับ

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์

ใบแดงของ ฟาน ไดจค์ อาจมีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย โดยกองหลังกัปตันทีมชาวดัตช์ ยืนเป็นตัวสุดท้าย และตัดสินใจเข้าปะทะ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้า นิวคาสเซิล จนล้มลงไป ซึ่งผู้ตัดสิน จอห์น บรูคส์ ไม่ลังเลที่จะให้ใบแดงทันที

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่า ฟาน ไดจค์ ในวัย 32 ปี เริ่มมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายที่ไม่ฟิตเหมือนก่อนแล้ว และความเร็วที่ตกลงไป โดยหลายคนเริ่มลงความเห็นว่า คล็อปป์ ควรจะมองหากองหลังที่ไว้ใจได้ เข้ามาร่วมทีมก่อนตลาดปิด

ขณะที่รองกัปตันทีมอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็แสดงให้เห็นว่า สมาธิหลุดอีกครั้ง หลังจับบอลพลาดนำไปสู่การเสียประตูแรก ซึ่งในเกมต่อไป เจ้าตัวต้องเรียกสติกลับมาโดยด่วนที่สุด

5. จาร์เรลล์ ควอนซาห์ กองหลังที่ ลิเวอร์พูล กำลังตามหา ?

จาร์เรล ควอนซาห์

เซ็นเตอร์แบ็ควัย 20 ปี แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์อย่างมาก และทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา และในเกมนี้ คล็อปป์ ก็กล้าที่จะให้โอกาส ควอนซาห์ ลงสนามแทน โจเอล มาติป ที่มีประสบการณ์มากกว่า

ควอนซาห์ รับมือกับแนวรุกของ นิวคาสเซิล ได้เป็นอย่างดี และมีจังหวะเข้าสกัดสวย ๆ ได้ด้วย โดยการเข้ามาสู่ทีมชุดใหญ่ของเจ้าตัวนั้น ทำให้ มีตัวเลือกในแนวรับมากขึ้น แต่จะคาดหวังให้เป็นตัวหลักทั้งฤดูกาล มันก็คงเป็นไปไม่ได้

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลิเวอร์พูล จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องหากองหลังคนใหม่เข้ามาร่วมทีมก่อนตลาดปิด และอาจรวมไปถึงมิดฟิลด์สารพัดประโยชน์อีก 1 รายด้วย

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top