ในอดีต “หงส์แดง” ก็เคยประสบความสำเร็จในการซื้อกองหลังมาร่วมทีมกลางฤดูกาลมาแล้วหลายคน และหนึ่งในนั้นก็คือ “ดาเนียล แอกเกอร์”
กองหลังชาวเดนมาร์กค่อนข้างโนเนมและไม่เป็นที่คาดหวังมากนัก เมื่อย้ายจาก บรอนด์บี้ เมื่อเดือนมกราคม ปี 2006, ใช้เวลาไม่นานนัก แอกเกอร์ ก็โชว์ผลงานได้เป็นที่ประทับใจแฟนบอล และช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้ แชมป์คอมมิวนิวตี้ ชิลด์ ตั้งแต่ฤดูกาลแรก
เขาย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ด้วยค่าตัวราว ๆ 6 ล้านปอนด์ ซึ่งกลายเป็นกองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรในขณะนั้น ต้องนับว่า ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสเปนตาถึงมาก
แอ็กเกอร์ เล่นให้ “หงส์แดง” ยาวนานถึงแปดปีครึ่ง โดยลงเตะทั้งหมด 232 นัด ทำได้ 14 ประตูกับอีก 11 แอสซิสต์ และในระหว่างนั้น เขาก็มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอยู่เนืองๆ อยู่ด้วย หากแต่ด้วยบุคลิกทีโดดเด่น มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีทำให้เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่ขวัญใจของชาว “เดอะค็อป” เท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่นักเตะในทีมให้ความเคารพและชื่นชมด้วย
สำหรับผลงานในสนามนั้น แอกเกอร์ ไม่เพียงเป็นผู้นำในแนวรับเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสกิลการพาบอลขึ้นไปเติมเกมบุกที่สง่างาม เป็นกองหลังที่ครองบอลได้เหนียวแน่น จ่ายบอลได้แม่นยำจากหลังสู่หน้า และ 14 ประตูที่ทำได้ล้วนแล้วแต่มีคุณภาพทั้งนั้น
หนึ่งในประตูแห่งความทรงจำก็คือ ในเกมรอบรองชนะเลิศนัดสอง ศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2006-2007 ซึ่งนัดแรก “หงส์แดง” พ่ายเชลซี 0-1 ประตู แต่นัดสองสามารถพลิกฟอร์มเอาชนะ 1-0 โดยเป็น แอกเกอร์ ที่สอดขึ้นมาทำประตูให้ทีมด้วยตัวเอง ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะดวลจุดโทษเอาชนะ 4-1 ผ่านเข้าไปยังรอบชิงชนะเลิศ
เมื่อ ลิเวอร์พูล เข้าสู่ยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ามาคุมทีม, แอกเกอร์ มีอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่อง และท้ายที่สุด เจ้าตัวก็ตัดสินใจย้ายทีมเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2014 โดยย้ายกลับไปอยู่กับ บรอนด์บี้ ก่อนเจ้าตัวจะประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2016
แต่เหนือสิ่งอื่นใด, ดาเนียล แอกเกอร์ ยังเป็นหนึ่งในนักเตะที่เหล่า “เดอะค็อป” ไม่เคยลืม