Wolveshampton vs Liverpool 5 ประเด็นหลังเกม หงส์แดง คัมแบ็ครอบที่ 3

Wolveshampton vs Liverpool ถือเป็นเกมเยือนที่แฟนหงส์นั่งไม่ติดที่ เพราะเป็นเกมที่ทัพ หงส์แดง คัมแบ็คกลับมาเอาชนะคู่แข่งเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ทั้งที่ Liverpool เพิ่งจะแข่งในรายการพรีเมียร์ลีกซีซั่น 2023/24 มาได้เพียง 5 นัดเท่านั้น

หลังจบเกมลูกทีมของ คล็อปป์ ขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว ก่อนจะคืนให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่พลพรรค หงส์แดง ก็แสดงความแข็งแกร่งด้วยการไม่ปราชัยในลีกมาแล้ว 16 เกมติดต่อกัน และนี่คือ 5 ประเด็นสำคัญที่ต้องพูดถึง

1. เกม Wolveshampton vs Liverpool ทำให้เห็นว่า หงส์แดง กำลังกลับมาแข็งแกร่ง

Wolveshampton vs Liverpool

ลิเวอร์พูล เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งที่เจอกับอุปสรรคมากมาย อาทิเช่น การเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ถึง 2 เกม และการต้องออกไปเล่นเป็นทีมเยือน หลังจบพักเบรกทีมชาติ ซึ่งต้องลงแข่งเป็นคู่แรกในเวลา 12.30 น. ของประเทศอังกฤษ ซึ่งประเด็นนี้ ทำให้ หงส์แดง กลายเป็นเจ้าสถิติของทีมที่ได้ลงเล่นเป็นคู่แรกของสัปดาห์ในเกาะอังกฤษ

ขณะเดียวกัน หากย้อนกลับไปในซีซันที่แล้ว ลูกทีมของ คล็อปป์ อาจทำผลงานได้ไม่ดีเท่านี้ และผลลัพธ์อาจต้องจบลงด้วยความปราชัย แต่ตอนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว โดยบรรดาแข้ง หงส์แดง ลงเล่นด้วยจิตใจมุ่งมั่นเกิน 100 เปอร์เซ็นต์

ดูเหมือนว่า Klopp จะเรียกความเชื่อมั่นของนักเตะกลับมาได้แล้ว และนั่นอาจเป็นเรื่องดีสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่จะบรรลุเป้าหมายสู่ความสำเร็จบางอย่างในฤดูกาลนี้

2. การเปลี่ยนตัว อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ในเกม Wolveshampton vs Liverpool

แม็ค อัลลิสเตอร์

คล็อปป์ ตัดสินใจที่จะดร็อป หลุยส์ ดิอาซ ปีกชาวโคลอมเบีย และ ดาร์วิน นูเนซ หัวหอกชาวอุรุกวัย ไว้เป็นตัวสำรอง เนื่องจากนักเตะเหล่านี้ เดินทางไปรับใช้ชาติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และเดินทางกลับมารายงานตัวช้ากว่าคนอื่น ๆ

หลังจากผ่านไปประมาณ 10 นาที ในเกมกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คล็อปป์ ต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมถึงเลือกใช้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ลงเป็นตัวจริง ทั้งที่ ดาวเตะวัย 24 ปี ก็เพิ่งกลับจากการเล่นให้กับทีมชาติอาร์เจนตินา และได้พักร่างกายเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น

เมื่อไม่กี่วันก่อน มีภาพของ แม็ค อัลลิสเตอร์ ต้องใช้ออกซิเจนช่วย หลังจากไปเล่นให้กับทัพ “ฟ้าขาว” ในเกมพบกับ ทีมชาติโบลิเวีย แต่เจ้าตัวยังต้องถูกเข็นให้ลงสนามเป็น 11 คนแรก ในตำแหน่งหมายเลข 6 ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่สุดในสนาม

แม็ค อัลลิสเตอร์ มีสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ และช้ากว่านักเตะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ในหลายจังหวะ แถมยังโดนใบเหลืองอีกด้วย แต่ยังดีที่ คล็อปป์ ตัดสินใจเร็วด้วยการเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งแรก และ ลิเวอร์พูล ก็กลับมาสู่เกมได้

3. จาเรลล์ ควอนซาห์ ได้แจ้งเกิดเต็มตัว

ควอนซาห์

มันง่ายมากสำหรับ คล็อปป์ ที่จะเสี่ยงกับความฟิตของ อิบราฮิมา โคนาเต้ ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส ด้วยการให้ลงเป็นตัวจริงทันที แต่เขาตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่ ด้วยการให้ ควอนซาห์ ออกสตาร์ทเป็นเกมแรกใน พรีเมียร์ลีก

เซ็นเตอร์แบ็ควัย 20 ปี ทำผลงานได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยทำสถิติสกัดบอล 3 ครั้ง เคลียร์บอล 5 ครั้ง และเข้าปะทะสำเร็จ 2 ครั้ง รวมทั้งยังมีความแม่นยำในการผ่านบอลถึง 96.3 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่จะเกิดอาการตะคริวกิน และโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงท้ายเกม

บางทีความยอดเยี่ยม และพรสวรรค์ของ ควอนซาห์ ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ คล็อปป์ ไม่ซื้อกองหลังคนใหม่ เข้ามาเสริมทัพเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

4. การเปลี่ยนบทบาทของ โม ซาลาห์

ซาลาห์

ก่อนหน้านี้ คล็อปป์ ใช้ความพยายามในการเปลี่ยนบทบาทของ ซาลาห์ จากแข้งจอมถล่มประตูในกรอบเขตโทษ กลายมาเป็นคนที่คอยสร้างสรรค์เกมจากแนวลึก และตอนนี้ ดาวเตะวัย 31 ปี ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาทำหน้าที่ดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ในช่วงที่ผ่านมา เธียร์รี อองรี ตำนานกองหน้า อาร์เซนอล และ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยสร้างสถิติแอสซิสต์ไปถึง 20 ครั้งในฤดูกาลเดียว และบางทีมันอาจเป็นความท้าทายของ ซาลาห์ ที่จะทำลายสถิติดังกล่าว

ปีกชาวอิยิปต์ ทำแอสซิสต์ไปแล้ว 4 ครั้ง ในช่วงออกสตาร์ทซีซันนี้ และยังมีเกมเหลืออีกถึง 33 นัด ให้ ซาลาห์ ได้สร้างสถิติใหม่ขึ้นมาใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง

5. ขุมกำลังเชิงลึกของ ลิเวอร์พูล ที่ไว้วางใจได้

Wolveshampton vs Liverpool

คุณภาพเชิงลึกของ ลิเวอร์พูล มักเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอ โดยสาวก เดอะ ค็อป หลายคนแสดงความไม่พอใจอย่างหนัก กับการทำธุรกิจของเจ้าของทีมเมื่อช่วงมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ คล็อปป์ แสดงให้เห็นแล้วว่า ทีมของเขา สามารถทดแทนกันได้ดีเพียงใด

ในเกมกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน นั้น คล็อปป์ สามารถส่ง ดิอาซ,  นูนเญซ, ฮาร์วีย์ เอลเลียต, โคนาเต้ และ ไรอัน กราเวนเบิร์ช ลงมาพลิกสถานการณ์ หลังจากที่นักเตะ 11 ตัวจริง ไม่สามารถแสดงคุณภาพที่ต้องการออกมาได้

การเปลี่ยนตัวเหล่าของ คล็อปป์ อาจทำให้ผู้จัดการทีมหลายคนใน พรีเมียร์ลีก อิจฉา โดยเฉพาะเมื่อผู้เล่นอย่าง ติอาโก้ อัลคันทาร่า, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ไม่มีชื่อแม้กระทั่งเป็นตัวสำรอง

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top