ฟอร์มการเล่นของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน ในเกมล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปแพ้ เวสต์แฮม 3-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ใช่ในแง่ดีสักเท่าไหร่
ด้วยการที่บรรดากองกลางที่มีอยู่ในทีมไม่ค่อยจะสมบูรณ์ทำให้ตัวเลือกในมือของ เยอร์เก้น คล็อปป์ มีไม่มากนัก และหนึ่งในนั้นก็คือ ดิอ็อกซ์ ที่ได้รับโอกาสลงสนาม แต่ในเกมกับ ขุนค้อน ดูเหมือนว่าเจ้าตัวกำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะปรับตัวให้เข้ากับจังหวะของเกมอยู่ตลอดเวลาและโชว์ฟอร์มได้ไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร
อันที่จริงเรื่องแบบนี้จะไปโทษนักเตะทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะมิดฟิลด์วัย 28 ปีได้รับบาดเจ็บหนักและต้องพักยาวไปกว่า 2 ปี ดังนั้น การที่เขาจะกลับมาอยู่ในจุดพีคอีกครั้ง มันก็ย่อมจะต้องพบเจอกับความยากลำบากอยู่บ้าง โดยเฉพาะการที่ไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนามเท่าที่ควรในช่วงที่ผ่านมา, อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่าฟอร์มการเล่นในเกมกับ เวสต์แฮม นั้นทำให้อนาคตของ อ็อกซ์เหลด กลายเป็นคำถามขึ้นมา
หลังจากที่ได้รับคำชมเชยจากฟอร์มการเล่นในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะ แอตเลติโก้ มาดริด ในเกม ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ของต้นเดือนพฤศจิกายน, แชมเบอร์เลน ควรจะต่อยอดความสำเร็จนั้นและก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงของ ลิเวอร์พูล ให้ได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ เคอร์ติส โจนส์, นาบี เกอิต้า และ ติอาโก้ อัลคันทารา ยังไม่สมบูรณ์พร้อมลงสนาม
แทนที่จะเป็นเช่นนั้นกองกลางชาวอังกฤษกลับทำให้กองเชียร์ตั้งคำถามว่า ตกลงเขาสมควรลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล จริงหรือ?
แม้ว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของ แชมเบอร์เลน อาจจะเป็นกองกลางก็จริง แต่จนป่านนี้เขาก็ยังไม่สามารถแสดงออกถึงการเล่นที่มีประสิทธิภาพออกมา ดูจากฟอร์มในเกมกับ ขุนค้อน แม้ว่าเจ้าตัวมีการผ่านบอลขึ้นไปข้างหน้าได้ดี พาบอลเข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อถึงพื้นที่ชี้ขาดบริเวณหน้ากรอบเขตโทษกลับไม่สามารถสร้างสรรค์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย ทำได้เพียงการพยายามสับไก ซึ่งก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด
สถิติของ แชมเบอร์เลน ในเกมดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างย่ำแย่ ไม่มีการผ่านบอลได้เสีย ไม่มีการสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม ผ่านบอลสำเร็จเพียง 35 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่า ติอาโก้ อัลคันทารา คนที่ถูกส่งลงสนามแทนเขาในนาทีที่ 70 ที่ทำได้ 37 ครั้งแถมยังพยายามยิงประตูและตรงกรอบไปหนึ่งครั้งและยังมีส่วนร่วมในการทำเกมบุกมากกว่าทั้ง ๆ ที่มีเวลาเพียง 20 นาที, ในขณะที่ ดิอ็อกซ์ ได้โอกาสไปชั่วโมงนิด ๆ แต่กลับยิงไม่เข้ากรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ฟอร์มการเล่นที่น่าผิดหวังของ อ็อกซ์เหลด นี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และด้วยการอยู่ในสถานะที่ไม่ได้รับการการันตีการเป็นตัวจริงอาจทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องลงมือทำอะไรซักอย่างในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมนี้
ทางเลือกในช่วงตลาดหน้าหนาวมีทั้งขายขาดหรือการปล่อยยืมตัว หาก เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังมองเห็นประโยชน์ในตัวของ แชมเบอร์เลน อยู่, การปล่อยยืมชั่วคราวจนจบฤดูกาลก็น่าเป็นทางเลือกที่ทำให้เจ้าตัวกลับมาคืนฟอร์มได้อีกครั้ง เหมือนกับกรณีของ เจสซี ลินการ์ด ที่สามารถกลับมาแจ้งเกิดกับ เวสต์แฮม ได้เมื่อช่วงครึ่งฤดูกาลหลังที่แล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อประเมินจากสถานะทางการเงินในตอนนี้ การพยายามทำเงินจากการขายขาด อ็อกซ์เหลด น่าจะเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดกับสโมสร, อย่างน้อย ๆ ค่าตัวซัก 20-25 ล้านปอนด์ก็น่าจะทำให้ คล็อปป์ ได้เงินก้อนกลับมาต่อยอดในการเสริมทัพในเดือนมกราคมได้บ้าง
ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะทำให้อนาคตของมิดฟิลด์ หงส์แดง มั่นคงและชัดเจนขึ้นก็คือการเร่งฟอร์มให้กลับมาอยู่ในมาตรฐานที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการให้ได้ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงก่อนปีใหม่…เพราะถ้าหากเจ้าตัวยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ แบบนี้ต่อไป ก็คงไม่เหลือโอกาสให้แก้ตัวอีกแล้ว!