วูล์ฟแฮมป์ตัน vs ลิเวอร์พูล เกมที่เป็นดั่งโอกาสแก้ตัวของทัพ หงส์แดง

วูล์ฟแฮมป์ตัน vs ลิเวอร์พูล จะเป็นเกมนัดแรกในศึก Premier League ของทัพ หงส์แดง หลังจากจบช่วงเวลาพักเบรกทีมชาติ โดยจะมีโปรแกรมฟาดแข้งกัน ในวันเสาร์ที่ 16 กันยายนนี้

ย้อนกลับไปเมื่อวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ มีการกล่าวกันว่า เกม วูล์ฟแฮมป์ตัน vs ลิเวอร์พูล ที่สนาม Molineux ถือเป็นหนึ่งในเกมที่ตกต่ำ และน่าผิดหวังที่สุดในยุคของ Jurgen Klopp แม้ว่าก่อนหน้านั้น ในเดือนมกราคม หงส์แดง จะสามารถเอาชนะทีม หมาป่าลอนดอน ในศึก FA Cup นัดรีเพลย์มาได้ แต่พวกเขา ก็ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของเจ้าบ้าน ในการเผชิญหน้ากันใน Premier League ได้

โดยหลังจบเกมที่ หงส์แดง บุกไปโดนยำถึง 3-0 แฟนบอลหลายคน ต่างก็คิดถึงอนาคตของ Liverpool ในเวลานั้นว่า จะเป็นไปในทิศทางใด และอนาคตของพวกเขาจะไปอยู่ตรงจุดไหน นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 7 เดือนก่อน

สถานการณ์ของ Liverpool ใน 4 เกมส์แรก ถือได้ว่าทำได้ดีเหนือความคาดหมาย จากการเก็บได้ 10 คะแนนจาก 12 แต้ม นับตั้งแต่เสมอกับ Chelsea ในเกมแรก พวกเขาก็เก็บชัยชนะรวด 3 นัดติดต่อกัน

นิวคาสเซิล - ลิเวอร์พูล

สำหรับ 3 เกมที่เอาชนะคู่แข่งได้นั้น ดูเหมือน หงส์แดง จะมีพัฒนาการที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ไล่ตั้งแต่การเริ่มต้นอย่างกระท่อนกระแท่นในเกมเจอกับ Bournemouth แต่ก็สามารถกลับมาเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-1

จากนั้น ในการเจอกับ Newcastle ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่ได้ไปเล่น UCL ในฤดูกาลนี้ และมีการเสริมทัพที่แข็งแกร่ง แต่ Liverpool กลับสามารถพลิกสถานการณ์เอาชนะได้จากการตามหลัง 1 ประตูแถมยังเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน โดยมี Darwin Nunez เป็นฮีโร่

ในขณะที่เกมล่าสุดกับ Aston Villa หงส์แดงเป็นฝ่ายครองเกม และเอาชนะทีมเยือนได้ในทุกมิติ แม้จะไม่ใช่การเล่นที่สวยงาม แต่พวกเขาแทบไม่มีข้อผิดพลาด และแสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมในการทำประตู

การออกไปเยือน Wolves จึงถือว่า มีความคาดหวังค่อนข้างสูง ที่จะได้เห็นพลพรรค Red Machine เก็บ 3 คะแนน พร้อมด้วยฟอร์มอันสุดยอดอีกครั้ง หลังจากซีซันที่แล้ว พวกเขาต้องพ่ายแพ้อย่างหมดรูปในสนามแห่งนี้ ด้วยการที่เตะเป็นคู่แรกในวันเสาร์ หาก Klopp พาทีมเก็บ 3 แต้มได้ ก็อาจจะทำให้พวกเขาขยับขึ้นเป็นจ่าฝูงในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งอารมณ์เช่นนี้ แทบไม่เคยเกิดขึ้นเลยเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

เมื่อพูดถึงเกมที่พบกับ Wolves เมื่อซีซันก่อน หากเราบอกว่าการเจอกับ Villa ในนัดล่าสุดคือ Perfect  Game ก็ต้องเรียกได้ว่าการเจอกับ Wolves เมื่อซีซั่นที่แล้ว คือหายนะโดยสมบูรณ์แบบได้เช่นกัน ในเกมดังกล่าว ความผิดพลาดเกิดขึ้นตั้งแต่แดนกลางที่มี วันนั้น Klopp เลือกส่ง 3 มิดฟิลด์อย่าง Stefan Bajcetic, Thiago Alcantara และ Naby Keita ลงสนามพร้อมกัน ก่อนจะจบลงด้วยการทำเข้าประตูตัวเองของ Joel Matip ตั้งแต่นาทีที่ 5

wolves vs liverpool

หงส์แดง พ่ายแพ้โดยสมบูรณ์แบบในนาทีที่ 12 จากการทำประตูของ Craig Dowson ให้เจ้าบ้านออกนำ 2-0 ซึ่งหากใครได้ดูเกมในวันนั้น จะพบว่าหลังจากสกอร์นี้ หงส์แดง ก็ไม่สามารถกลับเข้าสู่เกม หรือเร่งเครื่องเพื่อตีตื้นได้เลย และประตูปิดท้ายของ Ruben Neves ก็ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์แบบของทีมในเวลานั้น ซึ่งฟอร์มในเกมดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดต่ำสุดของฤดูกาลก็ว่าได้

Alisson Becker ถึงกับให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า ตอนนี้ความเชื่อมั่นในทีมตกต่ำเป็นอย่างมาก และมองว่าการเสียประตูแบบไม่น่าเสียทำให้เกิดความกังวล ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในทีม ความพ่ายแพ้ต่อ Wolves รวมทั้งความปราชัยต่อทีมอย่าง Brentford, Brighton และ Bournemouth ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญ ที่ทำให้พวกเขาพลาดการไปเล่น UEFA Champions League ในฤดูกาลนี้

ความผิดหวังดังกล่าว จึงเป็นที่มาให้ Klopp จัดการยกเครื่องกองกลางใหม่ในช่วงตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา และตอนนี้ดูเหมือนว่า Liverpool จะกลายเป็นคนละทีมกับเมื่อซีซั่นที่แล้วจากผลงานอันยอดเยี่ยมที่เกิดขึ้นใน 4 เกมแรก

สำหรับเกม วูล์ฟแฮมป์ตัน vs ลิเวอร์พูล ในวันที่ 16 ก.ย. นี้ เรามีโอกาสได้เห็น Dominik Szoboszlai, Alexis Mag aleister และ Ryan Gravenberch ลงสนามพร้อมกัน ซึ่งสิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ The Kop ทั้งหลายอยากจะเห็น แต่ก็ยังมีความกังวลในแดนหลังที่ขาด Van Dijk จากการติดโทษแบน โดยคาดว่า Joel Matip และ Joe Gomez จะได้จับคู่กันลงสนามเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน

Virgil Van Dijk

แต่ด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของทั้งคู่ในเกมที่พบกับ Aston Villa น่าจะทำให้เรามั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า พวกเขาจะไม่ก่อความผิดพลาดซ้ำอีก เหมือนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Joe Gomez ที่ได้รับคำชมอย่างมาก ในเกมนัดที่แล้ว และสำหรับตัวเขา นี่คือช่วงเวลาที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง และพยายามก้าวข้ามพ้น ร่มเงาของ VVD เพื่อเป็นตัวหลักของ Liverpool ต่อไปให้ได้

นอกจากนี้ เรายังอาจจะได้เห็น Darwin Nunez ประจำการเป็นกองหน้าตัวเป้าอีกครั้ง แม้ว่านัดล่าสุด เขาจะยิงประตูไม่ได้ แต่ก็มีส่วนสร้างความปั่นป่วน และสร้างโอกาสให้กับทีม รวมทั้งมีส่วนร่วมในประตู ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับดาวยิงรายนี้

เราจึงอาจจะพูดได้ว่า Liverpool ในเวลานี้ กับเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พวกเขาคือคนละทีมกันแล้ว แถมยังมีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะสถิติที่ยังไม่แพ้ใคร 15 นัดติดต่อกัน ตั้งแต่ช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมา นี่คือสิ่งที่ Klopp พยายามแก้ไข และพัฒนามาตลอด ซึ่งมาถึงเวลานี้ มันกำลังเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น

ดังนั้น 3 คะแนนกับ Wolves นอกจากจะเป็นการเอาคืนแล้ว มันยังเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำ Liverpool ไปสู่ความสำเร็จในซีซั่นนี้ได้เช่นกัน

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top